JustMakeWeb.com รับทำเว็บไซต์ รับทำเว็บโรงแรม รับทำเว็บขายของ รับทำเว็บบริษัท เว็บสำเร็จรูป รับทำเว็บร้านค้า ออกแบบเว็บไซต์ ใช้งานได้ง่าย รองรับ SEO โปรโมท GOOGLE ให้ติดอันดับได้อย่างรวดเร็ว , ลงโฆษณาฟรี VPS ราคาถูก
รับทำเว็บไซต์
0
สถิติเว็บไซต์
เปิดเว็บเมื่อ : 2011-06-08
จำนวนสมาชิก : 1,612 คน
ปรับปรุงเมื่อ : 2025-04-23
จำนวนครั้งที่ชม : 4,527,669 ครั้ง
Online : 51 คน

บันได 10 ขั้น ในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและอายุยืน

2011-10-12 13:05:01 ใน General Information » 0 3589 บันได 10 ขั้น ในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและอายุยืน

ความสุข มีนิยามแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล บาง คนเชื่อว่า ความร่ำรวยคือความสุข บ้างก็ว่า ยิ่งมี เพื่อนมาก ยิ่งทำให้ชีวิตมีความสุข ในขณะที่บางคนขอให้ได้กินอิ่ม นอนหลับสบาย ก็เป็นความสุขอย่างยิ่งแล้ว
       
       แท้จริงแล้ว ความสุขเป็นเรื่องง่ายๆ ที่อยู่รอบๆตัวเรา หากคุณยังหามันไม่พบละก็ ลองทำตาม 10 ขั้นตอนต่อไปนี้ ที่เป็นบันไดนำทางให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและ อายุยืนยาว จนคนรอบข้างพากันอิจฉา
       
       1. หายใจเข้าลึกๆ
       
       หากอยากลองทำสิ่งดีๆให้ตัวเองให้เห็นผลภายใน 5 นาที วิธีง่ายที่สุดคือ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ที่ไม่ใช่แค่เพียงสูดอากาศเข้าไปในปอด อย่างที่ทำกันตามปกติ
       
       แต่ควรฝึกหายใจด้วยกล้ามเนื้อกระบังลม ซึ่งเป็นการหายใจเข้าช้าๆ ให้ลึกถึงช่องท้อง วิธีนี้เป็นวิธีสำคัญที่ช่วยจัดการความเครียดได้ผลดียิ่ง เพราะคุณไม่ต้องเสียเงินไปเข้าคอร์สลดความเครียด โดยทำได้ทุกที่ทุกเวลา
       
       2. กอดแสดงความรัก
       
       มีคำแนะนำจากนักจิตวิทยาว่า ควรกอดผู้อื่นและให้ผู้อื่นกอดวันละ 4 ครั้งเป็นประจำ เพราะมีการวิจัยที่ระบุว่า การกอดทำให้คนอายุยืนยาวขึ้น ด้วยคำอธิบายว่า การกอดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์ มันช่วย “บรรเทาความเจ็บปวดและทำให้ใจสงบ” ลดปฏิกิริยาโต้ตอบต่อสิ่งเร้า เมื่อเรารู้สึกถูกคุกคามหรืออยู่ในสภาวะตึงเครียด
       
       และการกอด มิได้จำกัดเฉพาะมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น การกอดสัตว์เลี้ยง เช่น หมา แมว ก็ให้ผลดีเช่นเดียวกัน
       
       แต่วัฒนธรรมไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการโอบกอดเท่าไรนัก ถึงแม้จะกระทำต่อคนที่เรารักหรือรักเราก็ตาม จึงน่าจะเป็นเรื่องดี หากช่วยกันรณรงค์ให้เห็นถึงความสำคัญของการกอดแสดงความรักอันบริสุทธิ์
       
       3. มีสติ
       
       โปรดลืมเรื่อง “สิ่งที่ต้องทำ” ที่กองไว้บนโต๊ะ เรื่องผิดใจกับเพื่อนรัก ฯลฯ ไปได้เลย แล้วหันมาสนใจกับปัจจุบันขณะ ซึ่งจะช่วยให้เรามีสติมากขึ้น
       
       ขอแนะให้คุณใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ภายในใจ เพราะมีความคิดหลายอย่างที่เป็นเหมือนความกลัวที่เราเข้าใจไปเอง และคิดว่ามันเป็นจริง ถ้าคุณรู้จักควบคุมความคิด มีสติ คิดอย่างมีเหตุผล มันอาจส่งผลดีต่อพฤติกรรมและชีวิตของคุณได้
       
       4. เลิกพูดตำหนิตัวเอง
       
       ทำไมไม่คิดมีเมตตาต่อตัวเองดูบ้าง ด้วยการรู้จักสงสารเห็นใจตัวเองให้มากขึ้น เพราะการตำหนิติเตียนตัวเอง เป็นสิ่งที่คนในสังคมนี้ทำกันเป็นประจำ จนกลายเป็นปัญหา และเรื่องนี้ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินในกระเป๋าที่คุณมี บ้านที่คุณอาศัย หรืองานที่คุณทำ
       
       คนในบางวัฒนธรรม ที่ไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง กลับเป็นคนที่มีเมตตาต่อตัวเองและผู้อื่นมากกว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะความคิดและความเชื่อที่พวกเขามีเกี่ยวกับตัวเอง การมองตัวเองในแง่ร้าย เป็นตัวการร้ายที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
       
       อารมณ์ซึมเศร้ามักเกิดจากความโกรธที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง เช่น การตราหน้าและเรียกตัวเองว่าเจ้างั่ง คุณจึงควรหยุดพฤติกรรมทำร้ายตนเอง ด้วยการเลิกพูดถึงตัวเองในแง่ลบ
       
       5. สร้างครอบครัวในฝัน
       
       แม้คุณไม่อาจจะเลือกเกิดในครอบครัวแบบที่ฝันได้ แต่คุณสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ มีการวิจัยเรื่องพัฒนาการของบุคคลในช่วงเวลาหลายปี เผยว่า คนที่ถูกกระทำทารุณ ถูกทำให้อับอาย หรือถูกทอดทิ้ง มีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตขณะอายุยังน้อย และมีโรคร้ายเรื้อรัง
       
       ดังนั้น คุณจะได้ประโยชน์จากแรงสนับสนุนของคนในครอบครัวได้อย่างไร ในเมื่อคุณมาจากครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง คำตอบคือ จงสร้างครอบครัวในฝันของคุณ ขึ้นมาเอง ด้วยการคบเพื่อนดีๆหรือมีผู้อาวุโสที่คุณเคารพนับถือ ยามคุณเป็นทุกข์ พวกเขาจะไม่ซ้ำเติม แต่จะคอยชี้แนะและเป็นกำลังใจให้คุณฝ่าฟันความยากลำบากไปด้วยดี
       
       6. รักตนเองก่อน..จึงค่อยรักคนอื่น
       
       คนที่เคยนั่งเครื่องบิน คงสังเกตเห็นก่อนเครื่องออก พนักงานต้อนรับบนเครื่องจะสาธิตการใช้หน้ากากออกซิเจนยามฉุกเฉิน โดยให้ผู้โดยสารสวมให้ตนเองก่อนที่จะช่วยสวมให้ผู้อื่น
       
       หลักการเดียวกันนี้ นำมาใช้กับการรักตัวเอง แต่คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่า การรักตัวเองเป็นความเห็นแก่ตัว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะคุณไม่อาจช่วยเหลือคนอื่นได้ ตราบใดที่คุณยังไม่สามารถช่วยตัวคุณเองให้ได้เสียก่อน
       
       7. ดูแลรักษาสุขภาพ
       
       การออกกำลังกายเพื่อให้เกิดผลดีที่สุด ควรทำวันละ 90 นาที สำหรับคนส่วนใหญ่นับเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ข่าวดีคือ แค่ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที หรือเดินวันละ 10,000 ก้าว ก็เพียงพอที่จะทำให้คุณอายุยืนขึ้นได้เช่นกัน
       
       8. ควบคุมและปล่อยวาง
       
       มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่เราไม่อาจควบคุมได้ แต่กุญแจสำคัญที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ คือ การให้ความสำคัญกับความคิดและปฏิกิริยาตอบสนองของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้
       
       คุณอาจนำหลักคำสอนทางพุทธศาสนาเรื่อง “ทมะ” ที่สอนให้บุคคลรู้จักข่มใจตนเอง ฝึกใจตนเอง ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในสัจความดี รวมทั้งยอมรับและแก้ไขสิ่งบกพร่องของตนเอง มาใช้จัดการความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
       
       จะดีไปกว่านั้น หากคุณโฟกัสเฉพาะเรื่องที่คุณควบคุมได้ และปล่อยวางเรื่องที่ควบคุมไม่ได้
       
       9. กินนอนอย่างถูกสุขลักษณะ
       
       การนอนหลับอย่างเพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพจิตและกายที่ดี คุณจึงควรนอนหลับให้ได้คืนละ 7-9 ชม. ลองสำรวจตัวเองว่า นอนหลับเพียงพอเป็นประจำหรือไม่
       
       อีกทั้งยังต้องรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการที่ดี กินให้เป็นเวลาในแต่ละวัน เพื่อร่างกายจะได้ไม่หิวโหยจนเกินไป บางคนที่ควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก อาจเป็นสาเหตุแห่งการกินที่ผิดปกติได้
       
       10. มีคนที่ไว้วางใจได้
       
       คุณไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนทางเครือข่ายเฟซบุ๊คนับล้านคน หรือรู้จักคนเป็นร้อยๆหรอก เพราะจากการวิจัยพบว่า คุณต้องการแค่เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ไว้วางใจได้ ที่จะช่วยให้คุณมีอายุยืน และหายป่วยได้เร็วขึ้น
       
       ในบางประเทศมีโปรแกรมฟื้นฟูอาการเจ็บป่วย ด้วยการให้คนไข้ได้พูดคุยกับบางคนถึงอาการป่วย โดยเชื่อว่า แรงสนับสนุนทางสังคมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
       
ที่มา: จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 131 ตุลาคม 2554 โดย บุญสิตา
 
กรุณาเข้า สู่ระบบ ก่อนทำการเขียนข้อความ
ท่านสามารถ Log in เพื่อแสดงความคิดเห็นด้านล่างของบทความ